ต่อใบขับขี่ 2566 กรมการขนส่งทางบกได้เปิดให้บริการโดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า สำหรับผู้ที่ผ่านการอบรมผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com ในการขับรถบนท้องถนนจำป็นต้องพกใบอนุญาตขับขี่ติดตัวไว้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้ขับขี่รถเป็นผู้รู้มีความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ และได้รับอนุญาตให้สามารถขับขี่รถประเภทต่างๆ ได้ตามกฎหมาย เวลาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเรียกตรวจก็ไว้ใช้ยืนยัน เพื่อเลี่ยงการถูกจับถูกปรับโดยไม่จำเป็น ใครที่ใบขับขี่ใกล้หมดอายุให้รีบต่อใบขับขี่ผ่านทางออนไลน์ได้เลย
ต่อใบขับขี่ 2566
“ใบขับขี่” หมดอายุ ไม่ต่อตามเวลาที่กำหนด หากโดนตำรวจจราจรเรียกขณะขับรถ ถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย และต้องเสียค่าปรับ แต่นับตั้งแต่สถานการณ์โควิดทำให้การ “ต่อใบขับขี่” ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค โดยให้ผู้ที่ต้องการอบรมต่ออายุใบขับขี่ ทำการอบรมผ่านระบบออนไลน์ DLT e-learning และจองคิวเพื่อทดสอบสมรรถภาพ พร้อมออกใบอนุญาตขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
ขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์
สำหรับการเข้าอบรมออนไลน์เพื่อต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์นั้น สามารถเข้าระบบการอบรม DLT e-learning ผ่านอุปกรณ์ทุกรูปแบบที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ / สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต
รายละเอียดการอบรมใบขับขี่ออนไลน์บนระบบ DLT e-learning
1. เข้าเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เพื่อทำการลงทะเบียนอบรมใบขับขี่ออนไลน์
เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เป็นเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกสำหรับให้ผู้ที่ต้องการเข้าอบรมใบขับขี่ออนไลน์ โดยระบบการอบรมต่อใบขับขี่ มีให้เลือกลงทะเบียนสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ เพื่อทำการต่อทะเบียน ซึ่งผลการอบรมออนไลน์จะมีอายุ 6 เดือนนับจากวันที่ผ่านการอบรม
2. ระบุข้อมูลเพื่ออบรมใบขับขี่ออนไลน์ให้ครบถ้วน
สำหรับข้อมูลในส่วนนี้ กรมการขนส่งทางบกจำเป็นจะต้องขอรายละเอียดที่ครบถ้วน ทั้งเลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์ รวมไปถึงวันเดือนปีเกิด เพื่อทำการยืนยันรายละเอียดของผู้เข้าอบรมใบขับขี่
3. เลือกการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ตามใบอนุญาตขับรถที่ต้องการต่ออายุ
ในการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ใบอนุญาตขับรถ มีให้เลือก 3 ประเภทด้วยกัน
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) โดยมีระยะเวลาในการอบรม 1 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถขนส่ง โดยมีระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ มีระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง
ซึ่งการเลือกอบรมใบขับขี่นั้นจำเป็นที่จะต้องเลือกให้ถูกต้องกับประเภทการอบรมที่ต้องการ
4. เลือกหัวข้อ “แบบทดสอบก่อนอบรม” เพื่อเข้ารับการอบรมใบขับขี่ออนไลน์
ก่อนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์นั้น จำเป็นที่จะต้องมีการทำแบบทดสอบก่อนอบรม เพื่อให้ผู้เข้าอบรมทราบความรู้พื้นฐานของตนเองว่ามีความรู้เกี่ยวกับการขับขี่และการใช้รถใช้ถนนอย่างไร
5. ตอบคำถามแบบทดสอบก่อนอบรมใบขับขี่ออนไลน์
การทำแบบทดสอบก่อนอบรมใบขับขี่ จะมีคำถามและมีช้อยส์คำตอบให้เลือกข้อที่ถูกที่สุด ซึ่งคำถามจากแบบทดสอบก่อนอบรมจะมีจำนวน 3 ข้อ เมื่อทำแบบทดสอบเสร็จให้ กดส่งข้อสอบ และกดไปขั้นตอนต่อไป
6. ดูวีดีโอการอบรมใบขับขี่ออนไลน์การขับรถให้จบ
หลังจากการทำแบบทดสอบ ให้ดูวิดีโอการอบรมใบขับขี่ผ่านระบบออนไลน์จนครบจำนวนชั่วโมง หากรับชมวิดีโอไม่จบ หรือปิดหน้าเว็บไซต์ก่อน หรือไม่ได้กรอกข้อมูลยืนยัน จำเป็นที่จะต้องเริ่มรับชมวิดีโอใหม่ตั้งแต่ต้น
7. ตอบคำถามแบบทดสอบหลังอบรมใบขับขี่ออนไลน์
เมื่อดูวิดีโอการอบรมการขับรถผ่านระบบออนไลน์จนครบแล้ว ให้ตอบแบบทดสองหลังอบรมให้ครบทุกข้อ หลังจากนั้น ระบบจะทำการประมวลผลว่าผ่านการทดสอบการอบรมใบขับขี่หรือไม่
8. บันทึกหน้าจอผลการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน
เมื่อผ่านการทดสอบแล้ว ระบบจะแจ้งผ่านการอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถขึ้นมา หลังจากนั้นให้บันทึกหน้าจอผลการอบรมใบขับขี่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับการทำใบขับขี่ใบใหม่
ประเภทใบขับขี่ที่สามารถอบรมออนไลน์ได้
สำหรับการต่อใบขับขี่ออนไลน์นั้น จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจให้ดีเกี่ยวกับชั่วโมงการอบรม เนื่องจากถ้าหากอบรมไม่ครบจำนวนชั่วโมง อาจจะทำให้ไม่สามารถทำใบขับขี่ใหม่ได้ ซึ่งรายละเอียดของการเข้าอบรมนั้น มีข้อมูลดังต่อไปนี้
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) อบรม 1 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถขนส่ง (ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถส่วนบุคคลชนิดที่ 1-4, ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถทุกประเภทชนิดที่ 1-4) อบรม 2 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถยนต์สาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ) อบรม 3 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลที่ขาดต่ออายุเกิน 1 ปีขึ้นไป (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) อบรม 2 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวที่สิ้นอายุเกิน 3 ปี (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) อบรม 2 ชั่วโมง
หมายเหตุ : ผลการอบรมการต่ออายุใบอนุญาตขับรถมีอายุ 90 วันนับจากวันที่ผ่านการอบรมเท่านั้น
สิ่งที่ต้องเตรียมหลังอบรมเสร็จ
เพื่อให้ไม่พลาดกับการต่อใบขับขี่ออนไลน์ ทั้งการจองคิวต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์และเอกสารต่างๆ ที่ต้องเตรียมพร้อม
- เพื่อความสะดวกให้จองคิวต่อใบขับขี่ทางออนไลน์
- เตรียมเอกสารที่ใช้ต่อใบขับขี่ให้พร้อม
- เดินทางไปที่สำนักงานขนส่งที่สะดวกตามวันนัด และแสดงเอกสารการอบรมและการจองคิวแก่เจ้าหน้าที่
เพียงเท่านี้ก็สามารถทำเรื่องต่อใบขับขี่ออนไลน์ผ่านระบบได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเดินทางไปเข้าอบรมที่สำนักงาน ซึ่งการอบรมนั้นจำเป็นที่จะต้องเลือกอบรมตรงกับประเภทที่ต้องการ และอบรมให้ครบตามกำหนดเวลา เพียงเท่านี้ก็สามารถต่ออายุได้ง่ายๆ หมดกังวลเรื่องใบขับขี่หมดอายุไปได้เลย
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่ 2566
กรมการขนส่งทางบก ได้เปิดให้บริการโดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า สำหรับผู้ที่ต้องการขอต่อใบขับขี่ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถที่ผ่านการอบรมผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com มาแล้ว โดยนำผลผ่านการอบรมออนไลน์ (e-Learning ) พร้อมใบรับรองแพทย์ เข้ารับบริการต่อใบขับขี่ได้ทันที ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ
- เข้าเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เพื่อลงทะเบียนเข้ารับการอบรม
- ดูวิดีโอการอบรมตามใบขับขี่ที่ต้องการต่ออายุ
- ตอบคำถามจากการดูวิดีโอ 3 ข้อ
- กรอกข้อมูลยืนยันตัวตน
- เสร็จสิ้นการอบรม
เอกสารที่ต้องเตรียมต่อใบขับขี่ 2566
- ใบขับขี่ฉบับเดิมที่หมดอายุ
- บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา
- กรณีที่ต้องการเปลี่ยนระยะเวลาต่อใบขับขี่จาก 2 ปีเป็น 5 ปี ต้องใช้ใบรับรองแพทย์
ต่อใบขับขี่2566 ที่เปิดให้ Walk in ได้ โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า
- การต่ออายุใบขับขี่ที่อบรมผ่าน e-learning มาแล้ว และต้องการอบรมที่สำนักงาน
- การขอรับใบขับขี่รถส่วนบุคคล (ชนิด 2 ปี เป็น 5 ปี)
- การขอรับใบขับขี่รถระหว่างประเทศ
- การขอรับใบแทนใบขับขี่รถที่ชำรุด, สูญหาย หรือแก้ไขรายการ
- การขอหนังสือรับรองใบขับขี่รถเป็นภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ
- การขอรับรอง หรือขอต่อใบขับขี่รถสาธารณะ
- สำหรับชาวต่างชาติที่ประสงค์ต่อใบขับขี่ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานครบถ้วนแล้ว จะออกใบนัดเพื่อดำเนินการในโอกาสต่อไป
ต่อใบขับขี่ล่วงหน้ากี่เดือน
การต่อใบขับขี่ล่วงหน้าสามารถต่ออายุก่อนล่วงหน้าได้ถึง 3 เดือนเลย หากใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี สามารถไปต่อใบขับขี่ ที่กรมการขนส่งทางบกได้เลย โดยจะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมการต่ออายุเท่านั้น
- ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 3 ปี
สำหรับกรณีที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่จะต้องทำการสอบข้อเขียนใหม่อีกครั้ง โดยต้องทำคะแนนให้ได้มากกว่า 90% หรือตอบถูกมากกว่า 45 ข้อ จาก 50 ข้อ เหมือนตอนทำใบขับขี่ใหม่
- ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป
สำหรับใครที่ปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป ต้องสอบใบขับขี่ใหม่ทั้งหมด หมายความว่าต้องสอบทั้งภาคปฏิบัติ และสอบข้อเขียนเช่นเดียวกันกับตอนเพิ่งเริ่มทำใบขับขี่ใหม่นั่นเอง
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับข่าวสังคม
- โคโค่ ลี นักร้องดัง จบชีวิตตัวเองหลังป่วยโรคซึมเศร้า
- ประกันสังคม เตือนผู้ประกันตน ม.39 อย่าลืมนำเงินเข้าบัญชี
- สะพานลาดกระบังถล่ม เจ็บ 7 ตาย 2
- บัตรทอง สปสช. เตือนมิจฉาชีพหลอกดึงข้อมูลปชช. ผ่านทางไลน์
- เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ยังคงยึดตามหลักเกณฑ์เดิม
ที่มาของบทความ
ติดตามอ่านข่าวสังคมได้ที่ operacion-hemorroides.com
สนับสนุนโดย ufabet369